English ภาษาไทย

+66 2840-7279, 7379, 7479

ความรู้เกี่ยวกับสเตนเลส


สเตนเลสคืออะไร

 

“สเตนเลส” หรือชื่ออย่างเป็นทางการ คือ “เหล็กกล้าไร้สนิม” เป็นศัพท์ทั่วไปที่ใช้เรียกเหล็กในกลุ่มที่มีความต้านทานการกัดกร่อนสูง สเตนเลสเป็นโลหะผสมระหว่างเหล็กและคาร์บอน  ซึ่งส่วนประกอบจะมีปริมาณคาร์บอนต่ำ มีโครเมียมเป็นส่วนผสมหลักประมาณ 10.5 % หรือมากกว่าทำให้เกิดการสร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์(chromium oxide film : CrO2 หรือเรียกว่า passive film) ที่มองไม่เห็นเกาะติดแน่นอยู่ที่ผิวหน้าทำให้เหล็กกล้ามีความต้านทานการกัดกร่อน ฟิล์มปกป้องนี้จะมีความบางเทียบเท่ากับวางกระดาษ 1 แผ่น บนตึกสูง 20 ชั้น ถ้าฟิล์มที่ผิวหน้านั้น ถูกทำลายไม่ว่าจากแรงกล สารเคมีหรือออกซิเจนที่มีอยู่ในบรรยากาศ แม้จำนวนน้อยนิดจะเข้าทำปฏิกิริยากับโครเมียม สร้างฟิล์มโครเมียมออกไซด์ทดแทนขึ้นใหม่ด้วยตัวมันเอง

ปัจจุบันสเตนเลสมีอยู่มากกว่า 60 ชนิด ทั้งนี้เนื่องจากสเตนเลสสามารถปรับปรุงคุณสมบัติในการต้านทานการกัดกร่อนและคุณสมบัติอื่น ๆ ที่ต้องการให้สูงขึ้นได้โดยการเพิ่มส่วนผสมของโครเมียมและเพิ่มธาตุอื่น ๆ เช่น โมลิบดิบนัม นิกเกิล และไนโตรเจนเข้าไป

ด้วยคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใคร เช่น ยากต่อการขึ้นสนิมเมื่อเทียบกับโลหะหรือวัสดุอื่น ๆ ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ ง่ายต่อการเชื่อมและการขึ้นรูป ระยะเวลาการใช้งานคุ้มค่ากับราคา และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด จึงทำให้สเตนเลสเป็นโลหะที่ทรงคุณค่า คุณสมบัติและประโยชน์ที่ไร้ขีดจำกัด

 

ใช้สเตนเลสดีอย่างไร

 

การที่ผู้ประกอบการ ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้า จะตัดสินใจเลือกใช้วัสดุในการประกอบชิ้นงานหรือแม้กระทั่งผู้บริโภคเองที่จะเลือกซื้อวัสดุมาใช้ในบ้าน เราควรที่จะศึกษาก่อนว่าคุณสมบัติอะไรที่เราต้องการใช้งาน เช่นเดียวกันกับการเลือกซื้อเลือกใช้สเตนเลส เราควรทราบว่าใช้สเตนเลสแล้วดีอย่างไร

ไม่ว่าจะต้องการความสวยงาม ความทนทาน อายุการใช้งานที่ยาวนาน ง่ายต่อการประกอบ ใช้ในที่อุณหภูมิสูงมากหรือต่ำมาก ปลอดภัยต่อสุขภาพ มีความต้านทานการกัดกร่อนสูง เงางาม มีสีให้เลือกหลากหลาย สเตนเลสน่าจะเป็นวัสดุที่ตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้ทั้งหมด

 

 

ลำดับ

ข้อดี

รายละเอียด

1

ทนทานต่อการกัดกร่อน

สเตนเลสทุกเกรดมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง แต่จะแตกต่างกันไปตามส่วนผสมของโลหะ เช่น เกรดที่มีโลหะผสมไม่สูง สามารถต้านทานการกัดกร่อนในบรรยากาศทั่วไป ในขณะที่เกรดที่มีโลหะผสมสูงสามารถต้านทานการกัดกร่อนในกรด ด่าง สารละลาย บรรยากาศ คลอไรด์ ได้เกือบทั้งหมด

2

ง่ายต่อการบำรุงรักษาและทำความสะอาด

สเตนเลสทำความสะอาดได้ง่าย และไม่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา หรือเสียเวลากับการที่จะต้องมาทาสีใหม่

3

ความต้านทานต่ออุณหภูมิสูงและอุณหภูมิต่ำ

สเตนเลสสามารถทนความร้อน ความเย็น และการเปลี่ยนอุณหภูมิฉับพลันได้ดี และด้วยคุณสมบัติพิเศษในการทนไฟ ทำให้มีการนำสเตนเลสไปใช้ในอุตสาหกรรมขนส่ง

4

ง่ายต่องานประกอบหรือแปรรูป

สเตนเลสส่วนใหญ่สามารถตัด เชื่อม ขึ้นรูป ตกแต่งทางกล ลากขึ้นรูป ขึ้นรูปนูนต่ำได้ง่าย ด้วยรูปร่าง สมบัติ และลักษณะต่าง ๆ ของสเตนเลส ช่วยให้ผู้ผลิต นักออกแบบ หรือผู้ใช้สามารถนำสเตนเลสไปประกอบกับวัสดุอื่น ๆ ได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้กับสเตนเลส หรือโครงสร้างภายนอกอาคารที่ใช้สเตนเลสยึดกับกระจก ล้วนแต่พบเห็นได้ทั้งนั้น

5

ความคงทน

คุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งของสเตนเลส คือ ความแข็งแกร่ง ทนทาน สเตนเลสสามารถเพิ่มความคงทนได้ด้วยการขึ้นรูปเย็น ใช้ในกรณีที่ต้องการลดความหนา ลดน้ำหนัก และประหยัดราคา สเตนเลสบางเกรดอาจใช้ในงานที่ทนความร้อนและยังคงความทนทานสูง

6

ความสวยงาม

ความเงางามของตัวสเตนเลสเอง หากนำไปหุ้มเสาภายในอาคาร ตกแต่งบานประตูลิฟท์ อุปกรณ์ประกอบอาหาร หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ก็ทำให้บ้านดูสวยงาม สะอาดและน่าอยู่อีกด้วย

นอกจากนั้นสเตนเลสยังมีสีพิ้นผิวให้เลือกมากมาย เช่น สีทอง บรอนซ์ เขียว เงิน และสีดำ เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้สามารถประยุกต์ใช้สเตนเลสได้ อย่างมากมาย

7

ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

สเตนเลสเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เกือบ 100% และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม

8

ความปลอดภัยและถูกสุขลักษณะ

สเตนเลสเป็นโลหะที่มีความเป็นกลาง ไม่ดูดซึมรสใด ๆ ทนต่อกรด ด่างและความร้อนได้ดีเยี่ยม การใช้อุปกรณ์เครื่องครัวสเตนเลสในบ้านเรือน หรืออาหารกระป๋องที่บรรจุในกระป๋องสเตนเลสจึงให้ความรู้สึกถึงความปลอดภัยแก่ผู้ใช้

 

 

วิธีการทำความสะอาดสเตนเลส

เมื่อใช้อุปกรณ์ เครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ หรือสิ่งของใด ๆ ก็ตามมักจะเกิดรอยคราบ รอยสกปรกติดอยู่ สเตนเลสก็เหมือนวัสดุทั่วไปที่เมื่อนำมาใช้จะเกิดคราบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคราบอาหาร คราบนิ้วมือ คราบตกค้างจากสารทำความสะอาด หรือการใช้สเตนเลสในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน เช่น แถบพื้นที่ชายฝั่งทะเล สิ่งเหล่านี้ย่อมก่อให้เกิดคราบสกปรก ความหม่นของผิว หรือการกัดกร่อน ดังนั้นการจะทำความสะอาดสเตนเลสควรคำนึงถึง

1. ต้นเหตุของการเกิดคราบหรือรอยสกปรก

2. อุปกรณ์ทำความสะอาด

3. สารทำความสะอาด

4. สภาพแวดล้อม

 

ลักษณะรอยเปื้อน

วิธีการทำความสะอาด

น้ำยาทำความสะอาดสเตนเลส

รอยนิ้วมือ

ล้างด้วยสบู่ ผงซักฟอก แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นจนสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้ง

สเปรย์ทำความสะอาดสเตนเลส Rhino / ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

น้ำมัน คราบน้ำมัน

ล้างด้วยสารละลายไฮโดรคาร์บอน / ออร์กานิก (เช่น แอลกอฮอล์) แล้วล้างออกด้วยสบู่ /ผงซักฟอกอย่างอ่อน และน้ำ ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง แนะนำให้จุ่มชิ้นงานให้โชกก่อนล้างในน้ำสบู่อุ่น ๆ

สเปรย์ทำความสะอาดสเตนเลส Rhino / ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

ฉลากและสติ๊กเกอร์

แช่ ในน้ำสบู่ร้อนๆ ก่อนจะลอกฉลากและทำความสะอาดกาวที่ติดอยู่ออกด้วยเมทิลแอลกอฮอล์ ( Methylated Spirit) หรือน้ำมันเบนซิน จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผสมผงซักฟอก ล้างออกอีกทีด้วยน้ำร้อน เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดเนื้อนุ่ม

สเปรย์ทำความสะอาดสเตนเลส Rhino / ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

สารแทนนิน จากชาหรือกาแฟ

ล้าง ด้วยน้ำร้อนผสมโซดาซักผ้า (โซเดียมไบคาร์บอเนต) จากนั้นล้างตามด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผสมผงซักฟอก ล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำร้อน เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดเนื้อนุ่ม

สเปรย์ทำความสะอาดสเตนเลส Rhino / ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

สี

ล้างออกด้วยสารละลายสี ใช้แปลงไนล่อนนุ่ม ๆ ขัดออก แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็คให้แห้ง

ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

เปลี่ยนสีเนื่องจากความร้อน

ทาครีม (เช่น บรัสโซ) ลงบนแผ่นขัดที่ไม่ได้ทำจากเหล็ก แล้วขัดคราบที่ติดบนสเตนเลสออก ความร้อนขัดไปในทิศทางเดียวกันกับพื้นผิว ล้างออกด้วยน้ำเย็น และเช็ดให้แห้ง

ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

รอยน้ำ ตะกรัน

รอยที่เห็นชัดสามารถลดเลือนได้ด้วยการแช่ไว้ในน้ำส้มสายชู 25% หรือกรดไนตริก 15% จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ตามด้วยน้ำสบู่หรือน้ำผสมผงซักฟอก และล้างออกอีกครั้งให้สะอาดด้วยน้ำร้อน เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาดเนื้อนุ่ม

ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

คราบสนิม

แช่ส่วนที่ขึ้นสนิมในน้ำอุ่นผสมสารละลาดกรดไนตริกในสัดส่วน 9:1 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด หรือทาพื้นผิวที่ขึ้นสนิมด้วยสารละลายกรดออกซาลิก ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเย็นและเช็ดให้แห้งหรือ ในกรณีของคราบสนิมที่ติดทนและยากต่อการกำจัด อาจต้องใช้เครื่องจักรช่วยขัดทำความสะอาด

ครีมขัดเงาสเตนเลส Rhino

 

วิธีการดูแลรักษาสเตนเลส

 

 

การดูแลรักษาสเตนเลส

 

สิ่งที่ไม่ควรทำกับพื้นผิวสเตนเลส

 

  • หากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำ ควรทำความสะอาดทันทีที่พบรอยเปื้อน ฝุ่น และคราบ
  • การทำความสะอาดควรเริ่มจากวิธีและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่อ่อนที่สุดก่อน เสมอและทดลองทำความสะอาดเป็นบริเวณเล็กๆ ก่อนเพื่อให้มั่นใจถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น

 

  • ใช้น้ำอุ่นเพื่อช่วยขจัดความมันของน้ำมันหรือจาระบี
  • ในขั้นตอนสุดท้ายของการทำความสะอาด ให้ใช้น้ำสะอาดล้างและเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเนื้อนุ่มหรือกระดาษชำระแผ่นใหญ่ทุกครั้ง

 

  • เมื่อใช้กรดทำความสะอาดสเตนเลส ควรใช้มาตรการป้องกันและระมัดระวังอย่างเหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงอุปกรณ์ทำความสะอาดที่ทำจาก โลหะ หรืออุปกรณ์ที่เคยนำไปทำความสะอาดชิ้นส่วนที่ผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอน (Carbon Steel) มาก่อน

 

  • หากไม่แน่ใจในวิธีการทำความสะอาด ให้ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง

 

  • อย่าเคลือบสเตนเลสด้วยขี้ผึ้งหรือสารที่มีความมัน เพราะจะทำให้ฝุ่นหรือรอยเปื้อนติดบนพื้นผิวได้ง่ายขึ้นและทำความสะอาดออกได้ยาก
  • อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของคลอไรด์ ( Chlorides) และ เฮไลด์ ( Helides) เช่น โบรไมน์ ( Bromine) ไอโอดีน ( Iodine) และ ฟลูออรีน (Fluorine)

 

  • อย่าใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคทำความสะอาดสเตนเลส
  • อย่าใช้กรดไฮโดรคลอริค ( HCI) ในการทำความสะอาด เพราะจะทำให้เกิดการกัดกร่อนแบบรูเข็มและแบบเป็นรอยร้าวได้ ( Pitting and Stress Corrosion Cracking)

 

  • อย่าใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่แน่ใจ
  • อย่าใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเงิน

 

  • อย่าใช้ปริมาณสบู่และผงซักฟอกมากเกินไปในการทำความสะอาด เพราะอาจทิ้งคราบไว้บนพื้นผิวได้
  • อย่าทำความสะอาดส่วนที่มีคราบฝังแน่นในขั้นตอนเดียว ควรทำความสะอาดเบื้องต้นก่อนขจัดคราบฝังแน่น
About us | Calendar | Career | Customer Service-Warranty Policy | Privacy Policy | Terms & Condition | Site Map



Copyright 2024 Charoen Somprasong Co.,Ltd.
All Right Reserved

web design by webunique co.,ltd

subscribe to receive updates/promotions

Hot line

02-840-7279 / 02-840-7379